- นักท่องเที่ยวจากชาติในอาเซียน โดยเฉพาะสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศไทย แห่เดินทางไปท่องเที่ยวจีนกันอย่างคึกคักหลังจีนเปิดฟรีวีซ่า ดันยอดนักท่องเที่ยวในจีนให้พุ่งสูง
- นอกจากนักท่องเที่ยวในอาเซียนแล้ว จีนยังคงขยายเวลาเปิดฟรีวีซ่ากับ 11 ประเทศในทวีปยุโรปจนถึงสิ้นปี 2025 เพื่อหวังขยายตลาดการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอีก
- นักวิเคราะห์มองว่าการขยายการยกเว้นวีซ่า นอกจากจะหวังผลด้านการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของจีน ที่จะเปิดประเทศท่ามกลางความตึงเครียดกับชาติตะวันตกด้วย
นโยบายฟรีวีซ่าของจีนเริ่มสัมฤทธิผล เห็นได้ชัดจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงกว่า 2 เท่า โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบอาเซียนอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ และประเทศไทย โดยพบว่าหลายเมืองในมณฑลยูนนาน มีนักท่องเที่ยวจากอาเซียนหลั่งไหลไปท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้บรรดาคนขับรถรับจ้างได้รับ-ส่งลูกค้าเต็มตลอดทั้งวัน โดยมีการประมาณการรายได้ในแต่ละเที่ยวน่าจะอยู่ที่ตั้งแต่ 150-1,000 หยวน หรือประมาณ 760-5,000 บาท
ผู้ที่ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ยูนนานระบุว่า เดิมทีลูกค้าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มักจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยกันที่มาท่องเที่ยวในประเทศ แต่ในระยะหลังเริ่มมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งถึงแม้เมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้ว จะพบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่เหล่านี้จะมีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างก็ยินดีต้อนรับ เพราะนั่นหมายถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นอีก และการขยายฐานลูกค้าในอนาคต เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาวสิงคโปร์และมาเลเซียมักจะมีการแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวทางโลกโซเชียล ซึ่งก็เหมือนเป็นการประชาสัมพันธ์ให้คนต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวมากขึ้นด้วย
โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวจีนเพิ่มขึ้น นับตั้งแต่การยกเลิกมาตรการคุมเข้มโควิด-19 เมื่อต้นปีที่แล้ว หลังบังคับใช้มาตรการเข้มงวดมาเกือบ 3 ปี ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า การเริ่มต้นใหม่และการขยายนโยบายปลอดวีซ่าถือเป็นกุญแจสำคัญ เพราะทำให้ขั้นตอนในการเดินทางสะดวกรวดเร็วมากขึ้น โดยมีนักเดินทางจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย เป็นกลุ่มหลักถูกขับเคลื่อนภายใต้มาตรการปลอดวีซ่า เพราะตั้งอยู่ใกล้กับจีนและยังมีวัฒนธรรมที่ค่อนข้างใกล้ชิดกับจีนด้วย
ศาสตราจารย์แซม หวง นักวิชาการที่ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวของจีน ระบุว่า นอกจากประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจที่ช่วยให้จีนฟื้นตัวหลังจากโรคระบาดใหญ่แล้ว การเปิดนโยบายฟรีวีซ่ากับหลายประเทศ ยังเป็นการส่งสัญญาณการเปิดประเทศของจีน ท่ามกลางความตึงเครียดกับชาติตะวันตกด้วย โดยการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจีนของชาวต่างชาติจะนับเป็นซอฟต์พาวเวอร์ทางการทูตในรูปแบบใหม่ เพราะต้องการให้ต่างชาติเข้ามาสัมผัสความก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศของจีนด้วยตัวเอง
การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว
จากข้อมูลขององค์การการท่องเที่ยวโลก พบว่าการท่องเที่ยวของจีนเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2023 โดยชาวจีนมีการเดินทางออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และพบว่าชาวจีนใช้จ่ายเงินในการไปท่องเที่ยวต่างประเทศในปี 2023 มากถึง 196,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 7 ล้าน 2 แสนล้านบาท ซึ่งมากกว่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่ใช้จ่ายอยู่ที่ 150,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.5 ล้านล้านบาท รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่ใช้จ่ายอยู่ที่ 112,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.1 ล้านล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังฟื้นตัวได้ช้า โดยจีนมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวราว 35.5 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนับว่าไม่ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวเมื่อปี 2019 ที่มีมากถึง 97.7 ล้านคน
การเดินหน้ายุทธศาสตร์ฟรีวีซ่ากับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย รวมทั้งขยายข้อตกลงนี้กับยุโรปอีก 11 ชาติ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยียม ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮังการี ไอร์แลนด์ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ สเปน และสวิตเซอร์แลนด์ จึงถือว่าเป็นยุทธศาสตร์ที่ได้ผลดี โดยพบว่ามีชาวต่างชาติเกือบ 2 ล้านคนเข้ามายังจีนในไตรมาสแรกหลังจากมีนโยบายฟรีวีซ่า มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนถึงกว่า 2 เท่าครึ่ง ในจำนวนนี้เดินทางมาเพื่อท่องเที่ยวมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่นักท่องเที่ยวจาก 3 ชาติในอาเซียน ถือเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่เดินทางมายังจีนในช่วง 5 เดือนแรกของปี ขณะที่เยอรมนีและฝรั่งเศสติดอยู่ใน 5 อันดับแรกด้วย
นายเอ็ดมุนด์ ออง ผู้จัดการทั่วไปของทริปดอทคอมของสิงคโปร์ระบุว่า ในช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนการจองท่องเที่ยวในจีนของประเทศไทย พุ่งขึ้นมากกว่า 14 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวจากมาเลย์และสิงคโปร์ก็เติบโตอย่างรวดเร็วถึงเกือบ 10 เท่า และ 5.7 เท่าตามลำดับ
ศาสตราจารย์หวง ผู้เชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวจีน ย้ำว่า นโยบายฟรีวีซ่าของจีน มีอิทธิพลอย่างมากต่อคนในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่าคนในยุโรปเนื่องจากการเดินทางที่ไม่ไกลเกินไป ค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง และสามารถเที่ยวได้ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่วัน ทำให้ตัดสินใจมาท่องเที่ยวได้ง่ายกว่า จึงไม่น่าแปลกใจที่ยูนนานถือเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวอาเซียน เนื่องจากอยู่ใกล้ที่สุด แถมยังมีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม และวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์
เร่งพัฒนาระบบรองรับนักท่องเที่ยว
เนื่องจากจีนต้องการจะเปิดกว้างรับนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นให้สอดคล้องกับนโยบายฟรีวีซ่า ทำให้จีนมีหลายมาตรการออกมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวมากขึ้น อย่างการจองตั๋วรถไฟสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ถูกพัฒนาให้สามารถจองผ่านระบบออนไลน์ได้ง่ายขึ้น โดยจะสามารถระบุตัวตนผ่านทางชื่อ สัญชาติ หรือเลขพาสปอร์ตได้ ขณะที่ก่อนหน้านี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติจะซื้อตั๋วทางออนไลน์ได้ แต่ต้องไปยืนยันตัวตนที่สถานีรถไฟก่อน
นอกจากนี้ระบบการชำระเงินผ่านอาลีเพย์ หรือวีแชต ก็มีการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานจากหลากหลายประเทศมากขึ้น โดยเชื่อมต่อกับระบบกระเป๋าเงินออนไลน์ของ 13 ประเทศได้แล้ว อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางไปท่องเที่ยวด้วยตัวเองก็ยังคงประสบกับปัญหาติดขัดในบางเรื่อง เมื่อต้องเจอกับรถไฟที่มีการเปลี่ยนเวลาเดินทาง แต่พวกเขาไม่มีเบอร์โทรในประเทศ ทำให้ไม่ทราบการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว รวมทั้งที่นั่งในรถไฟที่อาจจะไม่มีการระบุที่นั่งชัดเจน นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่ประสบปัญหาที่พักไม่ยอมรับชาวต่างชาติ เนื่องจากมักเกิดการร้องเรียนบ่อยครั้ง จนทำให้ทางการจีนต้องออกคำสั่งให้โรงแรมต่างๆ ห้ามปฏิเสธการรับชาวต่างชาติเข้าพัก เป็นต้น.