วันที่ 4 มิถุนายน 2567 หลังจากมีการรายงานข่าวของสำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ว่า ค่ายรถยนต์เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) เตรียมปิดสำนักงานใหญ่ในยุโรป ที่นครมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยจะมีการเลิกจ้างพนักงานและทีมผู้บริหาร 100 คน เนื่องจากประสบปัญหาของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (GWM) เนื่องจากประสบปัญหาด้านยอดขายจึงได้มีการเลิกจ้างพนักงานรวมถึงทีมผู้บริหารทั้งหมด 100 คน ในวันที่ 1 สิงหาคมที่จะถึงนี้
ล่าสุด เกรท วอลล์ มอเตอร์ ประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ยังคงยืนยันว่าบริษัทไม่มีนโยบายในการย้ายฐานการผลิตจากประเทศไทย และระบุชัดเจนว่ายังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามแผนดันไทยเป็นฮับการใช้และการผลิตรถ EV ของภูมิภาค ล่าสุด “ประชาชาติธุรกิจ” ได้รวบรวมรายงานสถิติยอดขายรถยนต์ของเกรท วอลล์ มอเตอร์ หลังจากเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ย้อนหลัง 3 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 จนถึง ปี 2566 ที่ผ่านมา ปรากฎว่า มียอดขายรถยนต์ในประเทศไทย สะสม ที่ 28,158 คัน
โดยยอดขาย ย้อนหลัง 3 ปี ได้แก่
ปี 2564 มียอดขายจำนวน 3,702 คัน
ปี 2565 มียอดขายจำนวน 11,616 คัน
ปี 2566 มียอดขายจำนวน 12,840 คัน
ในช่วง 3 ปีที่ทำเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เกรท วอลล์ มอเตอร์ สามารถการบรรลุเป้าหมาย Mission 9 in 3 หรือการเปิดตัวรถยนต์ครบ 9 รุ่น ภายในระยะเวลา 3 ปี ส่วนช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย. 2567) มียอดขายไปแล้ว เกือบ 4,000 คัน
ปีนี้ เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ประกาศแผนธุรกิจ ในการก้าวขึ้นสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำ 3 อันดับแรกของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย ภายใน 3 ปี โดยตั้งเป้ายอดขายในปี 2567 อยู่ที่ 25,000 คัน และวาง 3 กลยุทธ์หลักเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ได้แก่ การเพิ่มรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ xEV ในประเทศไทยให้ครบทั้งสิ้น 15 รุ่น ภายในปี 2568
โดยปี 2567 บริษัทฯ วางแผนที่จะเปิดตัวยานยนต์พลังงานใหม่อย่างน้อย 3 รุ่น สานต่อนโยบายลูกค้าโดยยึดผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง (User-centric) และนโยบายราคาเดียว (One Price Policy) ขยายเครือข่าย GWM Partner Store ให้ครบ 101 แห่งทั่วประเทศ และการขยาย Partner Store ขนาด S ในจังหวัดขนาดเล็ก และ XS รูปแบบใหม่ในอำเภอรองของจังหวัดใหญ่ เพื่อสร้างเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ควบคู่กับการขยายสถานีชาร์จ (DC Fast Charge) ให้ครบ 55 แห่ง ภายในปีนี้
