ช่วงสองสามปีกว่ามานี้เวียดนามได้ “ขุดทอง” ในตลาดทุเรียนจีนชิลๆ แต่ก็ต้องมีอันสะดุดตอเพราะความรีบร้อนคิดสั้นเห็นแก่ผลกำไรเฉพาะหน้า ศุลกากรจีนประกาศระงับการนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามจาก 33 แหล่ง ซึ่งประกอบด้วยโรงงานทำหีบห่อทุเรียน 15 แห่ง และสวนเพาะปลูก 18 แห่ง เหตุเพราะพบสารโลหะหนักแคดเมียมระดับสูงเกินในผลไม้ โดยคำสั่งระงับฯนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
การระงับการนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามบางส่วนนี้เกิดหลังจากที่ไม่กี่เดือนมานี้เจ้าหน้าที่ศุลกากรจีนได้เข้มงวดกวดขันตรวจสอบผลไม้นำเข้าจากเพื่อนบ้าน และพบปัญหาคุณภาพผลไม้จากเวียดนาม และได้ส่งจดหมายตักเตือนหลายครั้งเรื่องฝ่าฝืนกฎเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพสินค้า การตรวจเข้มนี้ทำให้มีทุเรียนถูกกักตามท่าเรือต่างๆและราคาทุเรียนเวียดนามตกลง
ศุลกากรจีนได้เรียกร้องให้เวียดนามไต่สวนหาสาเหตุการส่งออกทุเรียนที่ไร้คุณภาพ และเตือนให้โรงงานแพคเกจกิ้งหรือสวนเพาะปลูกทุเรียนให้ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด
นักวิชาการประจำมหาวิทยาลัยในเวียดนาม กล่าวว่า “แม้ผู้เพาะปลูกทุเรียนเวียดนามจะโกยกำไรมหาศาลจากตลาดจีน แต่ในระยะยาวแล้วถ้าไม่มีการควบคุมคุณภาพทุเรียนก็จะทำลายแรงแข่งขันของทุเรียนเวียดนาม”
ทั้งนี้ จีนได้อนุมัติการนำเข้าทุเรียนจากเวียดนามเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2021 และเมื่อปีที่แล้วเวียดนามได้กลายเป็นแหล่งส่งออกทุเรียนอันดับสองของจีน รองจากไทย
ปี 2023 จีนนำเข้าทุเรียน 1.4 ล้านตัน มูลค่าของการส่งออกทุเรียนไทยไปจีนลดลงจากประมาณร้อยละ 100 ในปี 2021 เหลือร้อยละ 68 ในปีที่แล้ว (หดหายไปร้อยละ 32)
ข้อมูลจากศุลกากรจีน ระบุว่าช่วง 5 เดือนแรกของปี 2024 ไทยส่งทุเรียนไปจีน คิดเป็นมูลค่า 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 2.5 เทียบกับช่วงเดียวกัน ขณะที่มูลค่าส่งทุเรียนเวียดนามไปยังจีน เพิ่มร้อยละ 61 แตะระดับ 661.48 ล้านเหรียญสหรัฐ
การไหลบ่าของทุเรียนจากเวียดนามเชื่อกันว่าเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคาทุเรียนในตลาดจีนลดลง โดยปัจจุบันชาวจีนกำลังเห่อทุเรียนจนเกิดกระแสส่งทุเรียนเป็นของขวัญที่มีราคาแพง ในบางพื้นที่เจ้าภาพจัดพิธีมงคลสมรสนำทุเรียนมาจัดเป็นของขวัญส่งให้แก่ญาติๆและผองเพื่อน
การส่งออกทุเรียนเวียดนามไปจีนบูมระเบิด ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกทุเรียนไทย ด้วยค่าขนส่งผลไม้จากเวียดนามไปจีนที่ราคาต่ำ และการแข่งขันที่ลดลงของผู้ส่งออกไทยซึ่งเจอภัยแล้งและคลื่นความร้อนหั่นการผลิตโดยเฉพาะในช่วงเดือนเม.ย.และพ.ค.ที่ผ่านมา